HUAHORM
this site the web

Thesis (ตรวจครั้งที่ 5)



เสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2552

1 เดือนผ่านไป หลังจากที่รอบที่แล้วพญานาคไม่ได้ปรากฏแก่สายตาผู้คาดหวัง
สำหรับคราวนี้ ก็ได้สมใจหมายสักที ทั้งผู้ทำ และผู้ห่วงใย ^^
แต่ยังไงปริมาณงานก็ยังน้อยอยู่ดี เพราะมันไม่ถึง 100% ไหนจะ Texture
ไหนจะ จัดแสง, Animate, Render, Composit และ VFX
เนื้อเรื่องที่ต้องทำให้รู้เรื่องสมบูรณ์ มุมกล้องการสื่ออารมณ์

สำหรับรอบนี้ก็เอา Animatic ที่เน้นไปที่พญานาคจากคราวที่แล้วมาส่ง
พร้อมจำลองบรรยากาศโดย Composit ตาม Key Visual ที่เคยทำไว้
ผลจากความน่าเป็นห่วงนี้คือ ใบแดงครับ ^^
ถามว่าความรู้สึกเป็นยังไง ต้องบอกตรงๆว่า ทำใจรอรับไว้แล้ว
แต่เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ กับชะตาชีวิตที่เหลืออยู่



และได้ทำ Display นี้เพื่อเชิญชวนเพื่อนสมาชิกใบแดง THESIS ใช้ร่วมกัน
เกาะกลุ่มเป็นปึกไว้ ดูมีพักพวกมีกำลังใจดี (เชิงจิตวิทยา)
มองเห็นแล้วสะดุ้งเหือก! ทำงาน!!!!!

ข้อความหลังจากนี้ไปเริ่มเข้าสู่ Mode ระบายอารมณ์ความรู้สึก

"1 เดือนที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"
"จะทันมั้ย"
"ถ้าไม่รับปริญญาพร้อมเพื่อนจะเป็นอะไรมั้ย"
"สงสัยคงได้เที่ยวปีใหม่ยาว"
"ขี้เกียจ"
บลาๆๆ

หลากหลายคำ กลุ่มคำ ประโยค ใบหน้า สายตา ท่าทาง รอยยิ้ม..
ทั้งหมดนี้เป็นแรงกดดันที่ดีมาก เตือนใจ และเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน
ครั้งที่ได้ใบเหลือง เราก็ประกาศตัวว่าทำทัน สู้!
ครั้งนี้ได้ใบแดง เราเข้าขั้นดื้อรั้น คำแนะนำดรอปไม่มีผลใดๆ ต่อเรา

4 ปีที่ผ่านมาเราเรียนทุกวิชาไม่ให้มีติดค้าง จ่ายเงินไปหลายแสน
เพื่อทำ Thesis อย่างเต็มที่ และปริญญาอย่างหน้าบานพร้อมเพื่อนๆ
สถานะของลูกคนกลาง กับปริญญาใบแรกของครอบครัวและญาติๆ
หลายๆ อย่างทำให้เราต้องยื่นคำขาดไปว่า "ต้องจบ"
ไม่ว่ายังไงปี 53 นี้พ่อแม่ตายายจะต้องหาชุดสวยๆ มางานรับปริญญาครั้งแรก
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเป็นตัวแทนออกสนามรบยังไงไม่รู้
มันหวิวๆ เคว้งๆ เครียด อัดอั้น กังวล จิตตกไปหมด

แต่เลือกแล้วที่จะทำ ก็ต้องทำต่อไป
ได้กำลังใจจากพ่อแม่ทุกวัน บำบัดจิตด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กำลังใจจากเพื่อนๆ อาจารย์ แม้กระทั่งคนที่ไม่รู้จักกัน
เมื่อถึงสภาวะย่ำแย่ ความช่วยเหลือและกำลังใจมันมาอย่างไม่คาดฝัน
ต้องขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่ได้มาเพราะเรื่องราวแย่ๆ

สุดท้ายนี้ให้สัญญากับผลงาน Final "หิมพานต์" ในเดือนหน้า
และรับปริญญา ปลายปี 53 เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่บนสภาวะเช่นเรา ^^

FIGHTING!!

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 10)

ศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2552

หลังจากที่ศิษย์ทั้งสามหายตัวไปถึงหนึ่งเดือน
ก็ถึงเวลาได้รายงานสถานการณ์ให้กับอาจารย์ที่ปรึกษา (อาจารย์ยิ้ม) สักที
ซึ่งอาจารย์ทุกคนก็เป็นห่วงงานเรา เช่นเดียวกับอาจารย์ยิ้ม
ที่แนะนำขั้นตอนการทำงานให้เร็วและทันท่วงทีต่อการส่ง
ตอนนี้เลยต้องเร่งมือทำพญานาคอย่างฉับพลัน และก็เปลี่ยนแผน
การขึ้นโมเดลต้นไม้ เป็นการใช้เทคนิค Retouch & Painting แทน
เพื่อใช้ในการ Composit อย่างมหาศาล T.T



ขอให้งานนี้ทันทีเถอะ

..

Thesis (ตรวจครั้งที่ 4)



เสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552

หลังจาก 1 เดือนผ่านไป ซึ่งไวเอาเสียมากๆ
เป้าหมายครั้งนี้คือต้องทำ Animation Test ให้ได้ 30%
แต่เจ้ากรรมความขี้เกียจและเชื่องช้าก็ทำให้โมเดลไม่เสร็จด้วยซ้ำ
ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึง Animation Test ที่ได้เพียง 10% กระมัง
หลังจากการตรวจซึ่งนำเสนอเป็นคนสุดท้ายก็เป็นไปตามคาดหมาย
ด้วยความที่อาจารย์เป็นห่วงถึงอนาคตด้วยเนื้องานยังไม่สมบูรณ์และครบถ้วน
จึงได้รับคำเตือนทั้งหมด 3 คน เราก็เป็นหนึ่งใน 3 ที่ได้ใบเหลือง ว้าว..
ซึ่งคาดการณ์และเตรียมพร้อมมาแล้วกับงานในครั้งนี้

แต่ก็ยังมีหลายๆอย่างที่เป็นกำลังใจให้อยู่ ทั้งจากอาจารย์ เพื่อนๆ และพ่อแม่
ทำให้เราก็ต้องพัฒนาและเร่งมือสานงานต่อไป
เจอกันรอบหน้า Animation 100%

..

Thesis (ตรวจครั้งที่ 3)

เสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2552

ตรวจความก้าวหน้าโครงการจุลนิพนธ์อย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ครั้งนี้
สิ่งที่ทางคณะฯ ต้องการให้ส่งมีเยอะมาก สำหรับระยะเวลา 1 เดือน
- Character Modeling
- Rigging
- Animation Test
- Animatic

แต่สิ่งที่เราทำได้นั้น มันน้อยมาก
- Character Modeling
- Rigging
- Animation Test

และในขณะที่เพื่อนๆ คนอื่นมีฉากไปส่งด้วย เราไม่มี
ขณะที่เพื่อนมี Animatic ไปส่งด้วย เราไม่มี
ขณะที่เพื่อนมี Model ครบแล้ว .. เรายัง



นี่เป็น Model ของ Character เด็กชายที่อยู่ในเรื่อง
เป็นเด็กชนบท ฟันหรอ ผมสั้นเกรียน ถอดเสื้อ กางเกงขาด รองเท้าแตะหูหนีบ
และอาจารย์แนะนำให้เพิ่ม Prop อย่าง หนังสะติ๊ก และกระเป๋าย่ามเข้าไป
เราก็เลยจัดให้ ซึ่งอาจารย์บอกว่า Character ตัวนี้โอเคแล้ว ไม่ต้องแก้ไขอะไร
(เราดีใจ)



ส่วนชิ้นนี้คือ Model พญานาค ที่ Develop รวมกันระหว่าง
แบบ Sketch ของเราเองกับพญานาคของ ม.ธรรมศาสตร์
ซึ่งอาจารย์แนะนำว่าให้ปรับแก้ให้เหมือนของเราให้มากที่สุด อาจารย์ชอบกว่า
และอาจารย์ก็แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก สำหรับพญานาคซึ่งเป็นตัวเอก
ว่าจะทำทันหรือเปล่า (เราเริ่มเครียด)



จากนั้นเราก็ทำการทดลอง Rigging เจ้า Model เด็กบ้านนอกตัวนี้ดู
ก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง สามารถใช้งานได้
อาจมีการปรับแก้เพิ่ม Loop ให้ Model อีกสักนิดในบางส่วนครับ



ตัวนี้เราลองใส่ไฟ Render Mental Ray
แสดงลักษณะของ Model โดยรอบๆ ตัว ด้วย Action Post ยิงหนังสะติ๊ก
อาจารย์บอกว่ายิงท่านี้ ระวังจะโดนนิ้วตัวเอง (หนังสะติ๊กเอียง) แหะๆ



หลังจากที่ทำการ Rigging ไป ก็ทดลองทำการใส่ชีวิตชีวาให้กับเจ้าเด็ก
โดยการทำ Walk Cycle ให้กับเค้า
เสียงเบาๆ จากอาจารย์กัมปนาทบอกว่า "หัวมันส่ายเหมือนอินเดีย น่ารักดี"
เราหันไปมอง เห็นอาจารย์มองมาที่จอแล้วยิ้ม .. แค่นี้เราก็ดีใจแทบบ้า

ในขณะที่งานของเรามีเพียงเท่านี้ กับระยะเวลาที่เหลืออีก 2-3 เดือน
เพื่อนๆ เราก็ก้าวไปไกลกันมากเกือบทุกคน อาจารย์จึงแสดงความเป็นห่วงกัน
ว่าครั้งต่อไป จะต้องมี Animation 30% นั้นเราจะทำได้ทันหรือไม่
ตอนนั้นเรายืนยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร อาจารย์เลยหัวเราะ "ฮ่าๆ .. ยิ้มหวาน" (แซว)

อาจารย์นพ แนะนำว่า ..
"ขณะที่เพื่อนกลับไปนอนกัน เราก็ต้องทำงาน ตอนนี้เราตามหลังเพื่อนอยู่มาก"
(เราเครียดเพิ่มขึ้น)

หลังจากการ Present ของเราจบ เราเดินลงไปด้วยความเครียด
ฟุบลงตรงที่นั่ง แล้วหลับไป .. ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อนคนสุดท้ายก็ Present จบ
ขณะที่ทุกคนแยกย้ายกลับ บ้างก็แยกไปคุยกับอาจารย์กัน
ตอนนั้นเราพูดอะไรกับใครไม่ค่อยออก อาจารย์ยิ้มก็มองมาหา
เราก็ไม่รู้จะทำไง ไม่รู้จะพูดอะไร ทั้งเครียด ทั้งรู้สึกผิด

ขณะนี้ เรารู้สึกว่าเราถูกกดดันจากหลายๆ สิ่งอย่าง
ซึ่งล้วนเกิดจากความคิดของตัวเราเอง
ตอนนี้เราต้องยกเลิกนัดกับเพื่อนๆ ที่จะไป Relax กันหลังทำงานที่นั่นนี่
เพื่อนั่งทำงานต่อไป อย่างทรมาน

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 9)

จันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2552

หลังจากที่เลื่อนเวลานัดหมายมาอยู่หลายครั้งก็ลงตัวสักที
อาจารย์ยิ้มนัดเจอที่ฟิตเนสหมู่บ้านเกสินีเช่นเดิม ในเวลา 20.00 น.
สำหรับวันนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 2 คน รวมเป็น 5 คน
บูมส์ ตั๊ก อาร์ท(วีโด้) อาร์ท(ปูท้น) แก้ว
แล้วเราก็นั่งแท็กซี่กันไปถึงที่นั่นนั่งกินอะไรรออาจารย์ไปพลาง
กระทั่งถึงเวลา 3 ทุ่มร้านก็ปิด แล้วเราก็ต้องเดินออกจากร้าน
แล้วก็เจออาจารย์ยิ้มที่วันนี้ซิ่ง Jazz มาแทน (เหมือนรู้ว่าเด็กเยอะ 55)
แล้วอาจารย์ก็พาไปหาอะไรกินกัน ผ่านไปหลายร้านก็ไปจบที่ร้านหลั่นล้า
เปิดงานคอมเม้นกันพร้อมดื่มอะไรไปชิวๆ ^^

คอมเม้นงานของบูมส์ครั้งนี้ก็ถือว่าน่าจะดีกว่าที่ผ่านๆมาซักหน่อย
คงเป็นด้วยปริมาณงานที่เร็วขึ้นกว่าเดิม สภาพงานที่พัฒนาแล้ว
เลยทำให้อาจารย์ไม่ติดค้างอะไรมากนัก เย่..
อาจารย์ก็แนะนำขั้นตอนการใส่ Texture ไปถึงเตรียม Rigging
เพื่อจะได้กลับมาปรับเพิ่มให้ Edge loop เหมาะสมกับการใช้งานจริง



สำหรับพญานาคอาจารย์ก็คิดว่ามันโอเคแล้ว สามารถไปต่อไป
ซึ่งชิ้นนี้ตื่นมาทำต่อตอนเช้าก่อนเดินทางมาหาอาจารย์
ปรับหงอนลายให้เป็นทรวดทรงแบบไทยให้มากขึ้น
และอาจารย์แนะนำให้ดัดส่วนบนหัวให้ดูโค้ง
ปรับทรวดทรงให้เป็นไปตามแบบที่เรา Sketch ไว้ซึ่งอาจารย์ชอบแบบนั้น
แล้วก็ทำการ Rigging ในแนวราบ ใส่ Texture Realistic สนุกแล้วงานนี้

สำหรับ Character เด็กก็เพิ่ม Edge loop ในบางส่วน
แล้วก็สามารถใส่ Texture และ Rigging ได้เลย



ชิ้นนี้เป็นงานที่คิดว่าจะทำมาเป็นองค์ประกอบเสริมของฉากเล่นๆ
ซึ่งได้ต้นแบบมาจากภาพ Sketch ของพี่ไม้ Thaispirit
ยังไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของงานเลย เราทำแล้วเปิดให้อาจารย์ดูเล่น
ปรากฏอาจารย์ชอบให้ทำต่อ แล้วขอให้เครดิตพี่ไม้ที่ออกแบบ ฮ่าๆ

เฉพาะงานของเราก็คอมเม้นไปถึงราวๆ 5 ทุ่มเห็นจะได้
ก็เริ่มคอมเม้นงานของเพื่อนๆกันต่อ ซึ่งเสร็จกันประมาณตี 1
พวกเราก็ตระเตรียมเดินทางกลับกัน ซึ่งค่ำคืนนี้ วิถีชีวิตของทุกคน
ถูกยกย้ายมาสิงสถิตกันอยู่ที่ลาดพร้าว รัชดาภิเษก 32
เพื่อรุมงานกันครับผม เหลือเวลาอีก 5 วันแล้ว
กับการพัฒนางานให้เสร็จเพื่อส่งรอบที่ 3 ไม่รู้จะได้เท่าไหร่ แหะๆ

แล้วเจอกันหิมพานต์

Thesis (ความคืบหน้า02)

จับแตะอยู่หลายชั่วยาม สำหรับโมเดลพญานาคอันสุดแสนจะงุนงงและยากเย็น
ในวันนี้ก็สามารถขึ้นโครงสร้างส่วนหัวที่ยากที่สุดได้สักที



รู้สึกเบาใจไปแยะเลยคืนนี้ แล้วก็ต้องทำตัวให้พร้อม
ต่อสู้กับหลากหลายชิ้นงานอีก ต่อไป..

...

Thesis (ความคืบหน้า)

หลังจากที่ปลุกปล้ำกับเจ้าโมเดลของ Character เด็กชายมายาวนาน
นับไปนับมาก็จะได้เดือนนึงแล้วนะเนี่ย..
กับการปรับไปแก้มา ปั้นโมเดลใหม่ถึง 3 ตัว



และจบที่เจ้าตัวนี้ ซึ่งก็เกือบจะ 100% แล้วครับ
เหลือเพียงแค่การใส่ Texture จริงให้กับ Model
แล้วก็เพิ่ม Detail รายละเอียดของ Face อีกเล็กน้อย
งานก็จะสำเร็จไปอีก 1 ชิ้น เย่.... ^^

...

วาดพ่อกับแม่

วันนี้ทำงานแล้วเครียด
รู้สึกเบื่องานออกแบบ Character การ์ตูนที่ไม่ถนัดเอาซะเลย
เลยหยิบดินสอเปิดหน้าพ่อหน้าแม่มาวาดเล่น



วาดแล้วรู้สึกดีจริงด้วยแหะ
ก็เป็นยุคสมัยสาวๆหนุ่มๆของพ่อแม่
ดูแม่ก็คล้ายๆอยู่ แต่ว่า.. แลพ่อจะหล่อเกิน 55

...

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 8)

อาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2552

อีกหนึ่งวันประจำเดือนที่้ต้องเดินทางออกไปหาอาจารย์ยิ้ม
อาจารย์ที่ปรึกษาของการจัดทำโครงการจุลนิพนธ์ในครั้งนี้
โดยอาจารย์นัดไว้ที่หมู่บ้านเกสินี ห้องอาหารฟิตเนส เวลา 18.00 น.
สำหรับวันนี้บูมส์ออกไปพบอาจารย์พร้อมกับสาวตั๊ก
(วีโด้ขาดเป็นครั้งแรกเลย)

ถึงที่หมายก็นั่งวาดรูปและคุยกับตั๊กไปพลาง เพื่อรออาจารย์ยิ้มครับ
เพียงชั่วครู่หนึ่งอาจารย์ก็มา เริ่มจากการสั่งอาหารเลี้ยงเรากันก่อน อิอิ
ระหว่างทานเราก็คุยงานตรวจงานกันไป
สำหรับรอบนี้ เราเอาโมเดลของเด็กไปให้อาจารย์ดู วาดรูปเพิ่มนิดนึง
อาจารย์ก็ถามว่าเราวาดด้านข้างด้านหน้าไว้บางมั้ย
เราเสียนิสัยประจำ ชอบทำโดยไม่ Sketch ก่อน โฮะๆๆ
อาจารย์บอกเมื่อก่อนอาจารย์ก็เป็น แต่มันไม่ดี การบ้านคราวนี้เลยกลายเป็น
ต้องส่ง Sketch Front View Side View มาให้อาจารย์ดูก่อน แหะๆ
แล้วอาจารย์ก็สอนเรื่องการจัดการกับ Face และ Edge บลาๆๆ
ได้ความรู้ใหม่มาอีกแล้วขอรับ อิอิ

จากนั้นก็เอาโมเดลพญานาคที่ขึ้นใหม่ไปให้อาจารย์ดู
ซึ่งอาจารย์บอกว่าอย่าเพิ่งลงรายละเอียด เอาโครงทั้งหมดก่อน
และตอนนี้ก็ไม่ต้องคิดพึ่งอะไรมากกับ Z blush เมื่อก่อนก็ไม่มี
เค้าทำได้เราก็ต้องทำได้ (คำนี้กระแทกใจเลย ว้าว!)




















และก็คงต้องปรับเรื่องการขึ้นโครงใหม่ให้เป็นแนวยาว
ตามคำแนะนำของอาจารย์นเรศ
ทำให้ตอนนี้อาจารย์เป็นห่วงกลัวว่าจะทำไม่ทัน เลยแอบบังคับว่า
Present คราวนี้อย่างน้อยต้องมีโมเดลเด็กนะ และถ้าได้พญานาคด้วยก็ดี
เหนื่อยหน่อย แต่ก็ต้องไฟท์ อีกแค่ 4 เดือนเท่านั้น ยอมไม่ได้หรอก

แล้วก็เอาแบบก้อนเมฆไปให้อาจารย์ดูด้วยนิดนึง อันที่ยังไม่เสร็จ
ลอง Animate ก้อนเมฆให้ดูการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ทำไปทำมา เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่า งานจะกลายเป็นแนว Paint แล้ว
อาจารย์เลยสะกิดว่า ทำ Realistic นะ แบบสวยๆ สมจริงเลย
แนะนำการเปิดตัวพญานาค การหมุนกล้องมาให้ด้วย
นึกภาพตามแล้วสวยจัง จะทำได้ไหมเนี่ย ^^

จบสิ้นการคอมเม้นท์งานของเราก็ไปต่อกันที่งานของตั๊ก
ซึ่งโมเดลก็ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย ทั้งฉากและตัวละคร ว้าว...ดีจัง
ระหว่างนั้นอาจารย์แอบถามโมเดลของตั๊กซึ่งเป็น Character
ผู้ใหญ่ อ้วนๆ มีหนวด ใส่สูท ผูกไทน์ ใส่สวิทเตอร์ และรองเท้าหนัง
อาจารย์ถามว่าไม่ทำรองเท้าหัวแหลมหรอ รึไม่ชอบ ..
อ๋อ.. แล้วซ้ำกับนี่ใช่มั้ย ฮ่าๆ (อาจารย์หันมาที่เรา แล้วยิ้ม)
อาจารย์ถามเราว่า เออ..รองเท้าหัวแหลมนี่มาจากไหนหรอ
เราเข้าใจว่าหมายถึงรองเท้าในด้านศิลปะ เลยตอบว่า
อ้อ..ผมนึกถึงทางอินเดียครับ
อ้าว.. พี่นึกว่าอังกฤษ (อาจารย์หลุดพูดแทนตัวว่าพี่มา 55 แอบยิ้ม)
อ๋อ.. ใช่ครับ แถวๆ อังกฤษ อิตาลี เราตอบกลับไปเมื่อนึกได้ว่า
ถามถึงเรื่องรองเท้าที่เราใส่นี่เอง เลยเพิ่งสู้ว่าอาจารย์สังเกตเห็นรองเท้า
ที่เราใส่ด้วยแหะว่าหัวแหลม .. รึว่ามันแหลมสะดุดตามาก อาจารย์เลยเห็น??

เอาเป็นว่านอกเรื่องการงานไปสักระยะหนึ่ง แต่ก็เป็นการทำงานที่ Happy
เสร็จสิ้นภารกิจกันราวๆ 3 ทุ่ม อาจารย์ยิ้มก็พาขับเคลื่อนรถมินิฯ
มาส่งเราที่สถานีใต้ดิน ศูนย์วัฒนธรรมฯ ขอบคุณคร้าบ ... ^^

...

MV Cyndi Seui - OK Happi

Project Music Video วิชา Creative Thinking
Cyndi Seui - OK Happi




จริงๆ แล้ววาดฝันกับงานนี้ไว้เยอะมาก
แต่สุดท้ายก็เช่นเคย ไม่มีเวลาให้กับงานเป็นชิ้นเป็นอัน
ด้วยโปรเจคต่างๆที่รุมเร้า และ Thesis อันรุ่มร้อน
จึงทำให้งานชิ้นนี้ถูกผลิตออกมาด้วยระยะเวลา 1 วัน ตามเนื้องานเลยครับ
ยังไงก็จะได้พัฒนาต่อในลำดับขั้นต่อไป

ปล.ขอบคุณนิวที่นั่งรถจากลาดพร้าวมาให้เราถ่ายรูปอยู่สิบกว่านาที
ขอบคุณจ๊อยซ์สำหรับชุดกล้วยหอมสีเหลืองที่อุตส่าห์หอบมา ฮ่าๆ

...

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 7)

เสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2552

เช้าวันนี้ได้รับ Message จากอาจารย์ยิ้ม ตอน 9.28 น.

"เจอกันที่ชั้นบน ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ หมู่บ้านเกสินี
ก่อน ซ โลตัส จ้ะ บอก ยามมาฟิตเนส"

สักพักหลังจากข้อความดังขึ้น สาวตั๊กก็โทรมา บอกว่าวันนี้ไม่สบาย
ขอลานะจ๊ะ เราเลยรีบโทรเช็คกับวีโด้เพราะเห็นบ่นๆว่าอาจจะไม่ไป
โชคดีที่วีโด้บอกกำลังออกไป นึกว่าต้องเดินทางคนเดียว .. เขินตาย

เมื่อเดินทางไปถึงที่ห้องอาหารของฟิตเนสราวๆ 11.30 (นัดไว้ 11.00 น.)
ก็โชคดีที่อาจารย์ยังไม่มา เราเลยนั่งรอกันพรางสอดส่ายสายตา
ดูเด็กหญิงชายกระโจนว่ายน้ำกันอย่างวาบหวิว (ราวๆ 4-5 ขวบ)
เมื่ออาจารย์มาถึงอาจารย์ก็เลี้ยงอาหาร เราก็สั่งกันแบบเขินๆ อีก แหะๆ
วันนี้อยากกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่พอดี เลยจัดไป 1 ดอก
อ้อ..เกือบลืมบอกวันนี้อาจารย์มาใน Uniform ชิวมาก กางเกงขาสั้นน้ำเงิน
เห็นแล้วนึกถึงภาพสมัยอาจารย์เป็นนักเรียนมัธยมออกเลย ^o^
จากนั้นก็เปิดงานให้อาจารย์ดูระหว่างทานอาหารกันไปอย่างเพลินจิต


ก็นั่งรับคำแนะนำและการบ้านสำหรับคราวต่อไป
- ทำปราสาทใส่ UV Map Texture ให้เรียบร้อย
- Character ใส่รายละเอียดให้ครบ พร้อม Map
- ทดลองทำ Animation ก้อนเมฆลายไทย
- องค์ประกอบเสริมอื่นๆ ทั้งหลายแหล่

หลังจากนั้นก็นำงานของ "ต่อ" ที่ฝากมาให้อาจารย์ดู และแนะนำ

พออาจารย์เห็นปุ๊บ ก็อึ้ง แล้วถามถึงการทำงาน และวิถีทางของเทพต่อ
เราจึงได้โอกาสเล่าเรื่องราวลักษณะของต่อให้อาจารย์ยิ้มฟัง
อาจารย์ยิ้มเกิดความประทับใจกับผลงาน และบอกว่า
"ถ้าอยากได้งานประจำให้มาหาอาจารย์" แล้วหัวเราะ ^^
เราปลื้มเลย รู้สึกเหมือนนี่มันเป็นงานของเราเอง
แล้วอาจารย์ก็ฝากให้เพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆมาให้

เสร็จสิ้นจากการตรวจงาน อาจารย์ยิ้มก็ชวนคุยนั่นนี่อย่างเพลิดเพลิน
แลวันนี้อาจารย์ Happy มาก เราเลยหน้าบานไปด้วย ฮ่า
จากนั้นอาจารย์ก็ซิ่งมินิฯ ไปส่งเราที่รถไฟใต้ดิน
มุ่งหน้ากลับบ้านกันอย่างผาสุขคร้าบ..

..

Usavich ที่รัก


         ถึง ณ เวลานี้น่าจะมีหลายคนที่รู้จักกับเจ้ากระต่ายสองตัวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกมัน แต่เรื่องราวที่ผมจะเขียนนี้ เป็นข้อมูลที่ผมค้นหาเมื่อหลายเดือนที่แล้ว เพราะชอบไอ้กระต่ายสองตัวนี้เอามากๆ เลยอยากรู้จักมันให้มากขึ้น มาดูสิว่า.. เรื่องราวมันเป็นมายังไง
         Usavich (อุ-สะ-วิช) การ์ตูน Animation จากแดนอาทิตย์อุทัย ในการผลิตของ MTV ประเทศญี่ปุ่น เป็นการ์ตูนคั่นเวลาที่ฉายทาง MTV Japan เป็นตอนสั้นๆ แต่ละตอนก็จะมีมุกฮาๆ กับ Character พิลึก Design ประหลาดล้ำโลก พร้อมผสมผสานการสร้างอารมณ์ด้วยเสียงดนตรีประกอบที่ไม่ธรรมดา และไม่มีเสียงพูด มักจะสื่อสารออกทางสีหน้าท่าทางของตัวละคร หรือเป็นเสียงอุทานประมาณนั้น
         เรื่องราวของ Usavich เกิดจากการที่เจ้ากระต่ายสองตัวบังเอิญถูกจองจำต้องมาติดคุกเป็นนักโทษอยู่ในรัสเซีย แล้วก็ทำให้เกิดเรื่องราวสุดรั่วป่วนฮาขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งเจ้ากระต่ายสองตัวก็ดันแหกคุกหลุดออกมา การดำเนินเรื่องจึงได้เคลื่อนย้ายจากภายในคุกออกมาสู่โลกภายนอกและดำเนินเรื่องราวต่อไป ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่มีชื่อเป็นของตัวเอง แต่..มันไม่เคยเห็นมันเรียกชื่อกันสักที


         Putin กระต่ายสีเขียว นักโทษหมายเลข 541 ที่มีความประพฤติดีเลิศ หน้าตาบ้องแบ๊ว ขี้กลัว หูจะผูกเป็นปมตลอดเวลา ใส่รองเท้าแตะ จะร่าเริงอยู่กับการเต้นเด้งดึ๋งตลอดเวลา แลจะติ๋มๆ ทึ่มๆ อึนๆ มึนๆ งงๆ เหมือนจะโง่ (แต่น่ารักนะ) จนคุณอาจสงสัยว่า เจ้า Putin มันติดคุกข้อหาอะไรกัน แท้จริงแล้ว Putin มีอาชีพพนักงานบริษัท ติดคุกเพราะหลับในเวลางาน โอ้...เศร้าเลย ต้องโทษจำคุก 3 ปี แต่ถึงกระนั้นเห็นอย่างนี้ถ้าเป็นเรื่องเครื่องยนต์กลไกแล้วต้องยกให้เขาเป็นมือ 1 เลยทีเดียวเชียวล่ะ และแล้ว Putin ก็ต้องมาอยู่ห้องขังห้องเดียวกับ Kirenenko แต่ดูไปเรื่อยๆก็จะรู้ว่า Putin นั้นก็มีความเจ๋งของมันเหมือนกันถึงได้มาอยู่ห้องเดียวกับ Kirenenko ได้ และเป็นกระต่ายตัวเดียวที่อยู่กับ Kirenenko ได้

         Kirenenko กระต่ายสีแดง นักโทษหมายเลข 04 เป็นกระต่ายพั๊งค์กลัดเข็มกลัดที่หูซ้าย ใส่คอนเวิร์ดหุ้มข้อ เจ้าพ่อมาเฟียขนานแท้ ติดคุกเพราะฆ่าคนตาย ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต แต่มันฆ่าเท่าไหร่ก็ฆ่าไม่ตาย เคยมีพี่น้องฝาแฝดผู้ชายด้วยหนึ่งตัว และคิดว่าน่าจะกลายเป็นชิ้นส่วนที่ถูกเย็บรวมกับตัวมันนั่นแหละ  นิสัยฮาร์ดคอ หนังเหนียว ชอบอยู่เงียบๆ เอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นรอบตัว นอกจากนอนดูหนังสือแคตตาล็อครองเท้า เพราะเป็นพวกคลั่งรองเท้าผ้าใบสุดๆ ถึงบางเวลาจะดูเงียบๆ ไร้พิษสง แต่ถ้าใครกล้าไปแหยมระหว่างที่พี่กำลังทำกิจกรรมยามว่าง เช่น ขณะที่แกกำลังอ่านหนังสือคอเลคชั่นรองเท้าผ้าใบสุดเลิฟอยู่ล่ะก็ เขาก็จะกลายร่างเป็นปีศาจทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยม ตายๆๆแน่ๆ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้ และไม่มีผู้คุมตัวไหนเอาอยู่ มันโดนขังกับกระต่ายตัวอื่นมาหลายตัว แต่ไม่มีตัวไหนทนมันได้แม้แต่ตัวเดียวจนได้มาเป็นนักโทษห้องเดียวกับ Putin (สงสาร Putin จัง)

         Komanech เป็นลูกเจี๊ยบกระเทยมีหนวดเขียว เป็นเจ้าประตูห้องขัง ที่โดน Kirenenko แกล้งทุกครั้งที่โมโห น่ารักแล้วก็น่าสงสาร โดนทำร้ายร่างกายแล้วทำหน้างง
         Leningrad กบจอมเขมือบที่ชอบไปกินลูกเจี๊ยบตุ๊ดบ่อยๆ
    ทั้งสองเป็นตัวละครที่จับพลัดจับพรูหลงเข้ามาในห้องขังของสองกระต่าย ทำให้ดีกรีความฮารั่วเพิ่มพูนทวีคูณมากขึ้นไปอีก


    ในช่วง Season แรกจะเป็นเรื่องราวขณะที่ทั้งสองยังคงอยู่ในคุก ใน Season นี้ดนตรีจะเป็นแนว Jazz ผสมผสานกะเสียงเอี๊ยดๆที่เกิดจากการที่เจ้า Putin ไปยืนเต้น Kozachok อยู่บนเตียง (Kozachok เป็นการเต้นพื้นบ้านของชาวยูเครน คือการเต้นที่ย่อตัวลงแล้วกระโดดสลับขาออกมา เป็นการเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวรัสเซีย)
    Usavich เป็นการ์ตูนที่ลีลาท่าทางหรือบางสิ่งบางอย่างแลจะส่อสื่อส่อแววเรื่องเพศบ้างเล็กน้อย เช่น ลูกเจี๊ยบที่เป็นกระเทย หรือบางคนก็วิจารณ์ว่า Putin นั้นอาจไม่ใช่ชายแท้ เพราะยอมอยู่กับ Kirenenko คอยดูแลอยู่ตลอด รวมทั้งตัว Kirenenko เองก็เช่นกัน จริงๆมันสามารถที่จะแหกคุกออกมาได้แต่ก็ไม่ยอมทำ ยังคงอยู่กับ Putin อยู่เรื่อยไป (นั่นไง) ซึ่งกรณีนี้ไม่ว่าทางผู้กำหนดเนื้อเรื่องจะตั้งใจให้เกิดหรือเป็นความบังเอิญก็ตาม คนดูเองก็อดคิดไม่ได้ หรือในเรื่องของความโหดเหี้ยมในบางครั้งบางครา จนถูกวิจารย์อยู่หลายครั้งหลายครา แต่ก็ใช่ว่าเหตุเหล่านี้จะเป็นเรื่อง แต่แท้จริงแล้วการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อก็ทำให้ Usavich กลายเป็นตัวแจ้งเกิดบริษัทผู้ผลิตอย่าง KANABAN จนดังไม่รู้เรื่อง ผลิตสินค้ารูป Kirenenko กับ Putin ออกมาขายกันอย่างเพลิดเพลิน

    ปัญหาของเราก็คือ ตอนนี้สินค้าของเจ้า Usavich มันเริ่มออกมาวางตลาดแล๊ว..กรี๊ด.. ต้องรีบไปซื้อโดยด่วน Usavich ที่ร๊ากกกก


หนุ่มลาดพร้าว

ศุกร์ที่ 2 - อาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552

3 วันนี้เดินทางมาทำการติววิชา Mel Script กับเพื่อนๆ ที่ลาดพร้าวครับ
นั่วติวกันที่ห้องของ "ผักกาด" โดยมี "ต่อ" เป็นติวเตอร์ให้พวกเรา



รวมแล้วค่ำคืนนี้มีผู้เข้าร่วมติวคือ บูมส์ แจง สาว มิว ตรอง ต่อ แก้ว นนท์
เสร็จกันประมาณตี 3 ก็ออกไปกินติ่มซำกันกลับมานอนสลบยาว
เตรียมพร้อมที่จะติวกันต่อ.. ในวันใหม่

...

Tree Shirt Project



งานเล็กๆ จากโครงการน้อยๆ "Tree Shirt"
ที่เสนอส่วนสำคัญของโครงการและขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนครับ
ขอบคุณจริงๆ

...

StopMotion : น้ำหนึ่ง



ชิ้นนี้เป็น Stop Motion ตัวแรงที่เราลองทำกัน
ผลงานก็ออกมาแบบไม่ประทับใจแบบเลิศดั่งใจครับ
ด้วยหลากหลายอุปสรรคที่ทำเอาสุขภาพจิตและกายเสียอย่างมาก
แต่ก็ดีที่มีการเริ่มต้นนะ

...

StopMotion : กบนอกกะลา





งานนี้เป็นโปรเจคพิเศษครับ ที่ทางรายการกบนอกกะลาติดต่อมา
ว่าจะมาถ่ายทำเรื่องราวของ Animation เจาะจงไปที่ Stop Motion
ของคณะ ICT ศิลปากร คณะจึงมอบหมายงานนี้ให้เรามาครับ
เราเลยได้มีโอกาสทำ Stop Motion อีกครั้งหนึ่ง
แต่ก็ยังเป็นแบบเร่งรีบเหมือนเดิม เห้อ.. ชีวิตงานหนอ
ฝากด้วยครับผม

...

Super Vido



ฝากไว้อีก 1 งานครับผม โปรเจคหนังสั้นวิชา Creative Thinking
อาจารย์ให้ทำหนังที่มี CG เราเลยนำเสนอเนื้อเรื่องไป
อาจารย์ขอกลับมาให้ทำหนังสนองโจทย์แบบ Ranger แก่ลูกค้า
เราเลยจัดโปรเจค Super Vido นี้ให้เลย
ซึ่งได้ Vido กับ voYwaY และ annjaeea มาเป็นนักแสดงนำ ขอบคุณหลายๆ
ใช้เวลาถ่ายทำที่สวนรถไฟกันครึ่งวันเต็ม เร่งรีบมากเพราะแบตหมด 55
จากนั้นก็ใช้เวลาตัดต่อ ใส่ CG บรรยายเสียงสดกันอีก 12 ชม เต็มขอรับ
งานนี้ก็เน้นสนุกนะครับ ยิ้มกันเข้าไว้ ^^

...

HuaHorm Demo Showreel



ต้องขอฝากฝังไว้ด้วยครับ
Showreel ตัวนี้ได้ฤกษ์ทำขึ้นเนื่องจากต้องทำส่งในวิชาสัมมนา ของ อ.ตาล
ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยเรียกมันว่า Demo ซะเลย ฮ่าๆ แถไถ
ไว้มีงานดีๆ เมื่อไหร่จะได้ทำตัวใหม่ Update ครับผม ^^

...

Thesis (ตรวจครั้งที่ 2)

เสาร์ที่ 26 กันยายน 2552

ตรวจความก้าวหน้าโครงการจุลนิพนธ์อย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 แล้วครับ
คราวนี้นำเสนอทั้งหมด 4 หัวข้อ ซึ่งปั่นเอาคืนวันศุกร์นั่นเอง โฮะๆ
- Animatic StoryBoard
- Character Design
- Scene Design
- Key Visual

ขณะที่นำเสนอไปในคราวนี้ เราพูดๆๆๆ เล่าๆๆๆ
ที่สำคัญ ยิ้ม..จิกอาจารย์ทั้งหมด ให้รู้ว่าเราพร้อม เรามั่นใจ เราทำได้ เราไม่กลัว
ไม่รู้ว่าได้ผลต่ออาจารย์รึเปล่า แต่ดีต่อเรานะ รู้สึกดี อิอิ
หลังจากการนำเสนอ ก็ได้คอมเมนท์มาบ้าง

เรื่องของ Animatic ก็ได้รับคำแนะนำให้ปรับแก้ตัวเนื้องานของ Teaser
ให้น่าสนใจ ไม่ต้องยึดติดเนื้อเรื่องแล้ว ขายหิมพานต์ให้เยอะๆ

Character Design ซึ่งเราว่ามันดีขึ้น
แต่อาจารย์ก็แนะนำให้ใส่ Prop ให้ดูมันมี Profile ขึ้นอีกนิดนึง
แต่อาจารย์กัมปนาท ก็บอกเลยว่าไม่ชอบตัวนี้ ไม่รู้ทำไมแต่ไม่ชอบ
ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ ต้องปรับแก้ เพราะมันไม่มีอะไรดึงดูดจริงๆ



Scene Design ก็ผ่านโอเค ก็ภาพ Sketch จาก Key Visual นั่นแหละ 55



และ Key Visual เราก็อธิบายกับอาจารย์ไปว่าจะทำอะไร ยังไง ตรงไหนบ้าง
เน้น Matt Painting ซึ่งอาจารย์ก็แนะนำให้เราลองศึกษาใช้โปรแกรม Vue
ในการทำฉากระยะไกล และใช้ Maya ทำน้ำตกเลยสักเล็กๆ แล้วซ้อนทับกัน
อืม..หลากหลายคำแนะนำ ต้องขอบคุณอาจารย์มากคร้าบ


วันนี้ Present เป็นคนที่ 4 เลยชิวเร็ว แว่บไปคลองถม ซื้อหนังมา 7 เรื่อง
แล้วกับมาหาอาจารย์ ฟังผลการพรีเซนต์ ซึ่งได้ข่าวมาว่าห้องเรานี้
มีผู้ได้ A หลายคน ที่แน่ๆ ขอแสดงความยินดีกับต่อ ที่ได้ A ชัวร์ๆ
และอาจารย์ให้คะแนนเต็มกันทุกคน พร้อมขอนำงานไปเป็นตัวอย่าง
ให้กับ นศ. ม.รังสิต ด้วยคำชมประกอบว่า "Perfect"
น้ำตาพรากแทนเลย โฮะๆ ส่วนเราก็มาลุ้นเกรดกันเองนะจ๊ะ

ปล.ขอแสดงความยินดีกับสาวเด็กห้อง 2 ที่ได้ A จากงานอินเดียเช่นกัน ^^

..

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 6)

พฤหัสบดีที่ 24 กันยายน 2552

วันนี้อัพเดทงานได้เพียงงานเดียวเพราะวันพุธก็ดันมีเรียน
เลยไม่มีเวลาจะทำเล๊ยย (แอบอ้าง อิอิ)
ส่งมาเพียงแบบ Sketch ที่จะใช้เป็น Key Visual ของ Thesis หิมพานต์



อาจารย์ก็แนะนำเทคนิคอะไรหลายอย่าง และความคาดหวัง
เลยให้การบ้านพร้อมให้รายงานผ่านทางอีเมลล์ก่อนวันตรวจ
ซึ่งเราไม่ได้ส่ง ทำให้อาจารย์ตื่นเต้นอีกแล้ว
ตายๆ วันตรวจ

...

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 5)

อังคารที่ 22 กันยายน 2552

หลังจากพฤหัสฯที่แล้วที่ไปเจออาจารย์ยิ้ม

วันศุกร์เราก็ไปเร่งงานหนังสั้นกันที่ลาดพร้าว ณ ห้องหอสิปปนนท์ ต่อ และมิว
โดยมีอ๊อฟไปช่วยช่วงเย็น ส่วนสาวกับตรองอยู่กับเราทั้งคืน (เหนื่อยมาก)

วันเสาร์เมื่อรุ่งเช้าเราก็หอบสังขารวิญญาณจรรีไปเรียนและส่งงานกัน
ในวิชา Creative Thinking แค่หนังได้สับเสียงหัวเราะ เราก็ดีใจและ อิอิ
พอกลับมาก็นอนสลบยาวขอรับท่าน ถึงอีกวัน

วันอาทิตย์ก็ไปเรียน Mel Script โดยอาจารย์ปิงมือหนึ่งของเมืองไทย
แล้วก็กลับมาสลบ มีเวลาทำงาน Update 1 วัน เหือก...
วันอังคาร ส่งงานแบบร่อยหรอ แค่ภาพตัวอย่าง Key Visual แย่ๆ ภาพนึง
เศร้าจิตตัวเองนัก อาจารย์เลยให้ทำ Sketch ส่งอีกรอบ โฮะๆ


ไปๆ กลับไปทำงานและ

..

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 4)

พฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2552

วันนี้ไปพบอาจารย์ยิ้มกันหลังจากทิ้งหายไปสองสัปดาห์
และบอกอาจารย์ว่า งานไม่มีอะไรคับ 55+
อาจารย์ร้อง หึ้ย!!

เราเลยเล่าให้อาจารย์ฟังว่าทำอะไรบ้างในสองอาทิตย์ที่ผ่านมา
แต่ว่าเราก็ขึ้น Model แล้ว เลยเอาปราสาท เด็ก พญานาคที่ขึ้นไว้ ให้อาจารย์ดู
เป็นแค่บล็อคคร่าวๆ




ซึ่งอาจารย์ก็เร่งรีบให้เติมรายละเอียดเพราะว่ามัน Low อยู่มากๆ
เราก็ให้อาจารย์ช่วยดูส่วนที่ขึ้นผิดลักษณะ แล้วมาปรับแก้
จากนั้นอาจารย์ก็หา Reference งานของบริษัทให้ดู .. ถึงกับช็อค
งานส๊วย..สวย อาจารย์เลยสั่งให้ไป Sketch Key Visual มาส่งคราวหน้า

...

Thesis (ตรวจครั้งที่ 1)

เสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552

วันนี้ชีพจรเต้นหนักมาก...
เพราะเป็นการตรวจความคืบหน้าจุลนิพนธ์อย่างเป็นทางการครั้งแรก
ไม่ได้นอนมาทั้งคืน เพื่อเตรียมเรื่องที่จะนำเสนอทั้งหมดนี้
- เนื้อเรื่อง
- ดนตรีประกอบ
- Case Study
- Mood and Tone
- ข้อมูลทางเทคนิค
- แบบร่าง

เนื้อเรื่อง ก็เป็นฉบับปรับปรุงใหม่ สร้างเหตุและผลให้มากขึ้น
ในการเชื่อมต่อเรื่องราวหิมพานต์กับปัจจุบัน (ต้องขอบคุณโจที่ช่วย)
ซึ่งอาจารย์ชมว่าตอนนี้เนื้อเรื่องดี ชอบ ข้อมูลเราแน่น (คำนี้ประทับใจสุดๆ)
เพราะเราตอบคำถามเรื่องของหิมพานต์ได้ อิอิ

ดนตรีประกอบ ถูกตัดต่อเป็นไฟล์ความยาว 4 นาทีเศษ
และนำเสนอแบบเล่านิทาน ยังกับออร์เคสตร้า
เปิดดนตรี เล่าเรื่อง มีซาวด์ประกอบ วู้ว
เพื่อนๆ บอกว่าดี เล่าตรงกับซาวด์ (แอบดีใจ คิๆ)
ซึ่งเราเอาดนตรีมาจาก Final Fantasy XII
อาจารย์แนะนำให้หาดนตรีไทยประกอบด้วย อืม..

Case Study เราเสนอความประทับใจจากหนังการ์ตูน
- My Neighbor Totoro
- Spirited Away

Mood and Tone เสนอการจัดทำให้ลักษณะเทียบเคียงกับ Kung Fu Panda

ข้อมูลทางเทคนิค ก็ดูจากงานโปรเจค SubanNaga บ้าง

และสุดท้ายคือเสนอแบบร่างที่เร่งทำไปเมื่อคืน โฮะๆ

ผลจากการนำเสนอก็คือ โปรเจคยังดูใหญ่อยู่ ถึงแม้จะเล็กลงไปเยอะแล้ว
อาจารย์นเรทแนะนำให้ทำเป็น Teaser หนัง .. น่าสนใจดีเนอะ
อาจารย์พีบอกว่าถ้าอยากทำจริงๆ คราวหน้าเอาโมเดลมาให้ดู
และอีกหลากหลายคำแนะนำ

วันนั้นต้องขอขอบคุณ Ztrong ที่คอยจดบันทึกคำ Comment ไว้ให้ครับ
ขอบคุณกำลังใจจากอาจารย์โอพิลในวันนั้น และเพื่อนๆ ด้วย อิอิ

...




Thesis (ขาดพบอาจารย์ที่ปรึกษา)

พฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2552

สำหรับวันนี้แท้จริงแล้วเราควรที่จะมีงานเสร็จเรียบร้อย ส่งความคืบหน้าให้จารย์
แต่ทว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราวุ่นวายอยู่กับเนื้อเรื่อง และสภาพจิต
จนไม่ได้ชิ้นงานรูปธรรมใดๆ ออกมาเลย -*-

การพบอาจารย์ครั้งที่ 4 ของเราจึงหายไป
อีก 2 วันจะต้องทำการตรวจจุลนิพนธ์แล้ว แต่ยังไม่ได้อะไรเลย
สมองวุ่นวายมากคิดอะไรไม่ออก ยาไหนๆ ก็ไม่สามารถรักษาได้
วันนั้นตัดสินใจโทรหาอาจารย์และเพื่อนพ้องมากมาย ทั้งสาระ และผ่อนคลาย

อาจารย์โอพิล แนะนำให้หยิบจับประเด็นสำคัญของหิมพานต์มาสักหนึ่งเหตุการณ์
อยากให้ทำไอ้สิ่งที่เราอยากทำมันจริงๆ ไม่ต้องกลัว
ให้ค้นหาหนังสือ ภาพ และ Thesis ของคณะจิตรกรรมฯ อาจเกิดแรงบันดาลใจได้

อาจารย์ไรเดอร์ แนะนำให้แสดงความสวยงามของหิมพานต์ออกมา
ไม่ต้องคิดมากในเนื้อเรื่อง ให้คิดว่าเราอยู่ในภาพจิตรกรรมของ อ.เฉลิมชัย
เรารู้สึกยังไง แล้วถ่ายทอดออกมาในมุมมองของเรา

อาจารย์โก้ย แนะนำเยอะในเรื่องของเทคนิคการจัดทำ ให้งานใหญ่ทำน้อยลงได้
แล้วให้หยิบจับประเด็นเหตุการณ์เหมือนกับที่อาจารย์โอพิลบอก
อาจารย์บอกอะไรมาเยอะมาก แล้วให้กำลังใจว่าจะช่วยดูให้อีกในครั้งต่อไป

วันนั้นเราคุยกับอาจารย์ทั้งสามท่านแล้วรู้สึกดีมาก รู้สึกมีกำลังใจหึดสู้ทันที

สาว คอยถามไถ่ คอมเม้นท์และแนะนำเนื้อเรื่องให้เราตลอดเวลา
อยู่เป็นเพื่อนเราจนดึกมาก แถมโทรหาได้ 24 ชั่วโมง เธอยอดมาก สาวเหล็ก

โจ คุยกับมันมากที่สุด ทั้งในเอ็มและโทรศัพท์ โจมีไอเดียดีๆ
ดัดแปลงประเด็ดให้ชัดเจนขึ้นได้ แก้นั่นเปลี่ยนนี่ 1 วันเต็มๆ ที่เราอยู่กับเนื้อเรื่อง
และโจก็ทำให้เราเห็นทางสว่างของเนื้อเรื่องได้ในคืนนั้น
มันรู้สึกเหมือนกับได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ หายใจได้เต็มปอด

พ่อแม่และพี่สาว พอเครียดเมื่อไหร่ เราก็โทรไปเล่าให้ฟัง ระบายๆ ปรึกษา
พ่อจบ ม.6 จาก กศน. แม่ไม่จบแม้กระทั่ง ป.3
แต่เค้าสนับสนุนเต็มที่กับงานสไตล์ไทยๆ ที่ลูกชายคนกลางอยากทำ
พ่อแม่ไม่มีเทคนิค ไม่มีความรู้อะไรให้ แต่เค้าสวดมนต์ให้ทุกคืน
วันรุ่งขึ้นก็ไปทำบุญ ไปบอกกล่าวสิ่งศักสิทธิ์ (นี่แหละวิถีชีวิตที่เราก็ได้รับมา)

เราเติมเงิน 300 บาทในโทรศัพท์ และหมดไปใน 2 วัน แต่คู้มโคตรๆ
จนเราได้สานต่อ "หิมพานต์" ต่อไป

...

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 3)

พฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2552

เช้าวันนี้นัดเจอกันที่รถไฟฟ้าใต้ดินเช่นเคย
แต่ปรากฏว่าหนูตั๊กเกิดไม่สบายขึ้นมา บูมส์กับวีโด้เลยต้องเดินทางไปกันสองคน
วันนี้ที่บริษัทของอาจารย์ยิ้มทำสีตกแต่งอะไรใหม่นิดหน่อย ห้องที่เคยคุยงานเลยใช้ไม่ได้
เราต้องย้ายไปห้องภายในตัวบ้านอีก ปรากฏว่า..ป๊าด!! ไฮโซกว่าอีก โฮก...
มีที่ฉายโปรเจคเตอร์ แมคโปรจอใหญ่โต เครื่องนั่นนี่จิปาถะ ซอฟแวร์แท้วางเรียงราย
ยอดมาก พออาจารย์เข้ามาถึงก็คุยกัน วีโด้มีพัฒนาการไปเรื่อยๆ
อาจารย์ยิ้มหยิบเอาตัวอย่างงานหุ่นยนต์มาให้ดู
ขณะที่เราปรึกษากับอาจารย์เรื่องเนื้อเรื่องที่ยังไม่มั่นใจ และต้องกลับไปปรับปรุงกันอีก
ตอนนี้มันเกิดความลังเลว่างานจะเป็นหิมพานต์ได้หรือไม่

จากนั้นก็เดินทางกลับหออย่างเคร่งเครียด วันนี้ไม่มีอะไร -*-

...

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 2)

พฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552

ครั้ง ที่สองแล้วสำหรับการนัดเจอกับอาจารย์ยิ้มที่ปรึกษา
ซึ่งเราก็ไม่ได้นอนเหมือนเดิม แล้วก็กลัวว่าจะไปเรทอีก เลยอาบน้ำตอน 6 โมงตรง
ออกจากหอตอน 6 โมงครึ่ง คิดว่ารถจะติดเหมือนคราวที่แล้วอีก ปรากฏไม่ติด
เราไปถึงที่สถานีห้วยขวางตอน 7.30 ทั้งๆที่นัดกันไว้ตอน 8 โมงตรง
เห้อ..เอาน่ะ ครึ่งชั่วโมงรอได้ แล้วเราก็ยืนอยู่ตรงทางออกประตู 1 รอวีโด้กับตั๊กมา
วันนี้คงเป็นทีของเราแล้วสิ แหะๆ ยังไม่มีใครมาเลย
จนกระทั่งชายหญิงทั้งสองปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า (ไม่ใช่ผีนะ) ตอน 8.30 ณ
เอะโอ..เรายืนอยู่ตรงนี้ครบหนึ่งชั่วโมงพอดี เหือก..
จากนั้นเราก็ออกจากสถานีไปขึ้น Taxi กัน จนมีเหตุการณ์น่าตื่นตกใจขึ้น...

เรายืนรอ Taxi ซึ่งไม่มีสักที เราเลยคุยกันว่าข้ามไปขึ้นฝั่งนึงดีกว่า ไปเร็วกว่าด้วย
ระหว่างที่เรากำลังจะข้ามถนนกัน รถมอร์'ไซต์มันก็วิ่งมาเยอะ ตั๊ก บูมส์ อาร์ท
อาร์ททักว่าบูมส์เดี๋ยวรถก็ชนหรอก เราเลยถอยหลังและหยุดรอ
พอมันไปหมดเราก็จะข้ามกัน ตอนนั้นตั๊กคุยโทรศัพท์กับอาร์ทอยู่
เรากับวีโด้เหลือบไปเห็นว่ามีรถเก๋งสีดำกำลังเลี้ยวจากทางแยกวิ่งมาหน้าเรา
เราเลยหยุดรอมองไปทางขวามือที่รถคันนั้น จนวิ่งผ่านหน้าเรา แล้วไปทางซ้าย

เห้ย..ตั๊ก!! ตู้ม.. ตั๊กกระเด็นออกไปนิดนึง โทรศัพท์ในมือกระเด็นออกไปอีกฝั่งถนน
รองเท้าหลุดไปอีกทิศ เรารีบวิ่งไปหาตั๊ก.. ตั๊กตอนตัวขดอยู่
เราถามว่าเป็นอะไรมั้ยตั๊ก ตั๊กเงยหน้ามาหาเราแล้วยิ้ม ไม่เป็นไรๆ ^^
ในใจเราคิด..ยังยิ้มได้อีก ตั๊กบอกให้เราดึงตัวขึ้นหน่อย
พอเราดึงขึ้นสบายใจขั้นนึงแล้วว่ากระดูกไม่หักอย่างที่คิด
เราเลยเก็บรองเท้ากับโทรศัพท์มาประกอบคืนตั๊ก
แล้วให้พี่ผู้หญิงอ้วนท้วนที่ชนพาตั๊กไปตรวจ โชคดีที่ตั๊กไม่เป็นอะไร
ทำแผลนิดหน่อย พี่เค้าจ่ายให้ไป 6 ร้อยกว่าบาท อืม..แพงเนอะ

ระหว่างนั้นเราก็แอบไปชั่งน้ำหนักแบบกลัวๆ เพราะมันไม่เคยลดเลย แหะๆ
เข็มกระดิกส่ายดุกดิกแล้วหยุดนิ่ง (ประเด็นนี้แอบนอกเรื่องไร้สาระ)
ลด ไป 5 กิโล เหือก.... ไม่อยากเชื่อตัวเอง แอบเหวอไปนิดนึง
เป็นข่าวดีในรอบ 10 ปีไม่เคยทำได้ ไม่มีจะกิน โฮะๆๆ อนาทจิต
เอาๆๆ กลับมาเรื่องเก่า

เสร็จแล้วเราก็นั่ง Taxi ไปที่บริษัท เราไปถึงช้า แต่อาจารย์ยังไม่มา
เราเลยไปนั่งคุยเล่นในห้องกันเพลิดเพลินเจริญจิต จนตัดสินใจโทรหาอาจารย์
ชั่วครู่หนึ่งอาจารย์ก็มา เราเลยเล่าเรื่องตั๊กให้อาจารย์ฟัง
อาจารย์ตกใจนิดนึง "จริงดิ ฮ่าๆๆ ฮาว่ะ" แล้วอาจารย์ก็ยิ้ม แหน่ะ..คง Concept
จากนั้นเราก็เอางานให้อาจารย์ตรวจกัน คุยเรื่องความเป็นไปได้ วิธีการ ขั้นตอน
แล้วสั่งงานครั้งต่อไป ซึ่งงานคราวนี้เราเอาเนื้อเรื่องให้เช็ค Character
Reference ของฉากไปให้อาจารย์ดู ไปจนถึงงานครั้งต่อไป
Model และ Sketch ฉาก พร้อมเนื้อเรื่องที่แก้ไขอีกเล็กน้อย อืม..


เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวหมกไก่กันอีก ณ ตอนนั้นน่าจะบ่ายๆเห็นจะได้
สามสี่ชั่วโมงผ่านไป ตั๊กยังไม่โทรบอกอาร์ท แล้วก็ไม่ให้เราบอก โฮะๆๆ
(ตอนหลังอาร์ทมาโวยเราเลย เอิ๊กๆ)
แล้วก็กลับหอ สลบไสล เตรียมพร้อมรบกันในครั้งต่อไป เหือก...

...

Thesis (พบอาจารย์ที่ปรึกษา 1)

พฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2552

วันนัดพบอาจารย์ที่ปรึกษาวันแรกครับ อาจารย์ยิ้มนัดเจอกันที่บริษัท
โดยส่งข้อความมาทางโทรศัทพ์ถึงพวกเราในวันที่ 5 ส.ค. ตอน 10.16 น. ความว่า

"C u at my office. Thu 8.30 am Na Ja.
Pls Call 026913232 - p mon for map.
"

ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะคิดเหมือนเรารึป่าว มันน่ารักดี
บูมส์ วีโด้ ตั๊ก คิดเหมือนกันและเก็บ Message นี้ไว้เป็นที่ระลึก โฮะๆ
เช่นเคยของวันส่งงาน คืนก่อนวันนี้เราก็ไม่ได้นอนอีก เลยไปกันแบบหลอนๆ
เรานัดเจอกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวางกันตอน 7 โมงครึ่ง
ปรากฏเรากับวีโด้ไปเรท ไปถึงกัน 8 โมงครึ่ง โฮะๆๆ ขอโทษทีนะหนูตั๊ก
จากนั้นเราก็ขึ้น Taxi กัน ถึงซอย..มองหาบ้านกันอยู่พักหนึ่ง
ตอนนั้นเรายืนกันอยู่หน้าบริษัทฟีโนมีน่า เลยโทรหาอาจาารย์
อาจารย์รับโทรศัพท์แล้วบอกว่าบริษัทอยู่ตรงข้ามฟีโนมีน่า เป็นบ้านแฝด
ให้เข้าไปรออยู่ในรั้วไม้หน้าบ้านได้เลย เราก็เดินกันเข้าไป โอ้ว..สวยดีแหะ
แลร่มรื่น ดูเหมือนจะไม่ใหญ่มาก แต่พอเราเดินไปมองด้านข้างของตัวบ้าน
ลึกเหมือนกันอ่ะ ใหญ่พอตัวเลยสำหรับ CG House

สักพักหนึ่งก็มีพี่ผู้หญิงชื่อพี่โสออกมาบอกให้เราเข้าไปรอข้างในบ้าน
พอเราเดินเขาไปก็ชอบกันเลย ข้างในตัวบ้านแต่งหน้าอยู่มาก
มีโซฟาวางรายรอบห้อง ทำห้องเก็บของแบบ Build in
ประตูเลื่อนไม้บานใหญ่คล้ายๆแบบญี่ปุ่น อ่างปลาเป็นชั้นๆวางซ้อนกันอยู่ที่มุมห้อง
ฝาผนังมีทีวีพลาสม่าจอใหญ่โตแขวนไว้ พร้อมด้วยโต๊ะญี่ปุ่นตั้งอยู่ตรงกลางห้อง

สักพักพี่โสกับพี่จ๊อยซ์ก็มาหยิบเบาะให้เรานั่ง เอาน้ำมาให้
เปิดแอร์เย็นฉ่ำกันอยู่สักพักหนึ่ง รถมินิก็มาจอดหน้าบ้าน
โห้ว..เราหันไปจ้องกันทั้งสามคน สวยหรู โฮะๆๆ
อาจารย์เดินออกมาจากรถมินิ เข้ามาในบ้าน แล้วก็ถามว่า

"กินโอวันตินกันมั้ยพวกเรา รึไม่เอา เอากาแฟดีกว่า ฮ่าๆๆ"

จากนั้นเราก็เริ่มคุยงานกัน เราก็เอาเนื้อเรื่องไปคุยกับอาจารย์..
อาจารย์ก็ยิ้ม แนะนำอะไรมาเยอะ พอเสร็จทั้งสามคน
อาจารย์ก็นัดเจออีกครั้ง พฤหัสหน้าเวลาเลื่อนเป็น 9.00 น.
แล้วพวกเราก็ไปกินข้าวหมกไก่กันที่ปากซอย อร่อยเหาะ
จากนั้นบูมส์ก็เดินทางกลับไปลพบุรี หาแม่..
และกินอาหารกันแบบเปรมๆ นอนแบบเต็มอิ่มสักที..คืนนี้

...

Thesis (นัดชิงอาจารย์ที่ปรึกษา)

เสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2552

วันนี้วันนัดพบที่สำคัญอีกวันหนึ่ง
การนำเสนอหัวข้อจุลนิพนธ์ในวันนี้แม้ไม่ใช่วันจริง แต่ใกล้เคียงที่สุด
เราก็เข้าไปเตรียมนำเสนอแบบหลอนๆ เพราะคืนก่อนหน้า เจอศึกหนักมาขอรับ
(ไปทำงานมา 2 Events) กลับมาถึงห้องตอนเที่ยงคืน ทั้งที่ไม่ได้นอนมาสองวัน
ก็จำต้องฝืนทนทำ Presentation ต่อไป ดวงตาก็แทบจะปิด
สติสตังค์ก็จมมิดคิดอะไรไม่ออกสักกะอย่าง
กระทั่งประมาณตี 3 Presentation ก็เสร็จลงแบบลวกๆ
ทันทีที่เครื่องถูกปิด ดวงไฟดับสนิทลง (ยังกะเล่าหนังผี)
เราก็เอนกายลงบนหมอนนุ่มๆ แอร์เย็นๆ รู้สึกว่าจะไม่กี่วินาที ก็หลับไปแล้ว โฮะๆ

เอาหล่ะแถไถมาซะเยอะเลย พอเช้าก็นั่งรถต่อเรือแล้วย่างก้าวเข้าสู่ตึก Cat บางรัก
และเตรียมพร้อมรบกับเพื่อนๆกันในห้องนำเสนองาน พวกเราได้กลุ่ม 3 ..
ดีที่มีแก๊งคนสนิทชิดใกล้ ต่อ ตรอง มิว แจง วีโด้ อาร์ท ตั๊ก แก้ว ฟิวส์ นิวหญิง
เพ็ญ แอมหญิง อืม..ลืมใครอีกหว่า นึกไม่ออก ฮ่าๆ เราได้ลำดับการนำเสนอที่ 9
แหม่..เลขสวยเลย กำหนดเวลาบ่ายโมงกว่าๆ ส่วนอาจารย์ที่ประจำอยู่ห้องเราก็มี
อาจารย์กัมปนาท อาจารย์พี อาจารย์นพ อาจารย์ณเรศซึ่งไม่มา อาจารย์โอพิล
และพี่พรที่ยังอยู่อเมริกา จนตอนนี้ได้ที่ 1 Siggraph ไปแล้วครับท่าน

ยังมีอาจารย์อีกคนนึง ที่แรกเห็นตอนเดินเข้ามานั้น พวกเราทุกคนไม่รู้ว่าเป็นอาจารย์
ด้วยรู้มาก่อนว่าห้องนี้มีพี่พรอยู่ด้วย และความที่จำหน้าไม่ได้
เลยคิดว่าผู้ชายขาวตี๋หน้าเด็กคนนี้เป็นพี่พรแน่ๆ เราเลยทักทายไปว่า

"พี่หวัดดีคับ" เขาก็หันมายิ้ม... "สวัสดีคับ"

แต่แล้วนิวหญิงก็เสนอบอกว่า อยากรู้จักอาจารย์ทุกท่านค่ะ
รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำตัวหน่อย ปรากฏเขาแนะนำตัวว่า

"สวัสดีครับ ผมชื่ออาจารย์ยิ้ม" โฮก..!! อาจารย์หรอกรึนี่ 55 อึ้งไปหนึ่งช่อต

พอถึงตอนพักเที่ยงเผลอกินข้าวนาน มาเกือบไม่ทัน พอเรานำเสนอเสร็จ
อาจารย์ก็ไม่ทันได้คอมเม้นท์ในส่วนของเนื้อเรื่องเลย แต่บอกก่อนเลยว่า

"นี่มันงานระดับมหากาพย์แล้ว ถ้าทำลายไทยทีละใบทั้งป่า ตายแน่ๆ"



เป็นความผิดเราเองแหละ ที่เอาสไตล์งานซึ่่งเป็นภาพวาดของเรา
กับสไตล์งานของพี่ไม้ไปให้อาจารย์ดูเป็น Reference เราคงใช้คำผิดไป
ถ้าบอกว่าเป็นแรงบันดาลใจคงดี โฮะๆ นั่นคือปัญหาของเราหล่ะ

หิมพานต์ได้ .. แต่คงต้องไปคิด และ Scope งานใหม่ T T

วันนี้บรรยากาศก็กดดันขึ้นมาในระดับหนึ่ง ทุกคนก็โดน comment กันแบบเต็มเหนี่ยว
เพราะนี่คือการเริ่มต้นแล้วเมื่อสิ้นสุดการนำเสนอครบทุกคน เวลาที่รอคอยก็มาถึง
เราก็คาดเดาไว้ว่า สงสัยจะได้ไม่อาจารย์พี ก็อาจารย์ยิ้มแหละ
แล้วอาจารย์นพก็อ่านรายชื่อออกมา

"วรรช์นกฤษฎ์ ... อาจารย์ยิ้มครับ" , "เย้!!!" เราอุทาน อาจารย์หันมามอง
"วัชระ ... อาจารย์ยิ้มครับ" , "ยื้อ!!!" วีโด้ก็เป็นอีกคน
อาจารย์ยิ้มเลยถามว่า "เอ๊ะ...หมายความว่าไงเนี่ย ฮ่าๆ" แล้วก็ยิ้มมมม ^^

สรุปแล้วเราก็ได้อาจารย์ยิ้มกัน มีบูมส์ วีโด้ และตั๊ก..
วันต่อมาเราก็ไปค้นหาข้อมูลอาจารย์กัน
เลยรู้ว่าอาจารย์ยิ้มเป็นเจ้าของบริษัท Yggdrazil ทำโฆษณา ล่าสุดก็คือ M150
ที่กระช้ากออกจากกรอบนั่นเอง อาจารย์ขับมินิด้วย ว้าว!!
พอสั่งงานเสร็จ อาจารย์ก็นัดเจอนอกรอบ ที่บริษัทของอาจารย์เลย สบายใจๆ..
ดูจากผู้ร่วมงานและอาจารย์แล้ว โอ้ว..อืม..ก็เป็นกำลังใจที่ดี โฮะๆๆ

...

Thesis (อย่างไม่เป็นทางการ)

เอาหล่ะ..เริ่มกันสักที กับความตั้งใจที่เราจะบันทึกทุกขั้นตอน และสถานการณ์ในการทำจุลนิพนธ์ อยากให้เพื่อนๆทำกันด้วย เพราะมันเป็นผลดีสำหรับการสรุปและประเมินผลขั้นสุดท้าย จริงๆนะ (จากประสบการณ์ที่เคยทำตอนช่วงฝึกงาน) เราไม่ต้องไปนั่งนึกว่า เราทำอะไร ตอนไหน ยังไง เริ่มที่การนำเสนอหัวข้อจุลนิพนธ์อย่างไม่เป็นทางการ ทั้ง 3 ครั้ง (โชคดีที่พิมพ์เก็บไว้ โฮะๆ)

จันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2552
วันนี้เริ่มนำเสนอแนวคิดในการที่จะจัดทำจุลนิพนธ์ในคาบเรียนวิชาสัมมนา โดยผู้รับฟังคืออาจารย์ตาล และเพื่อนๆ เราเสนอแนวคิดเรื่อง ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด ซึ่งได้มากจากตอนที่เคยคุยกับโจว่าจะทำโปรเจคนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำ ใจจริงแล้วเราคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่สไตล์ที่เราชอบทำสักเท่าไหร่ แต่มันอาจจะทำให้เราจบได้เพราะมันน่าจะง่ายกว่าสไตล์ที่เราชอบ ถ้าทำมันแอนิเมชั่น (ปกติเราทำสไตล์ไทยซะส่วนใหญ่) แต่ถึงยังไงซะโปรเจคนี้ มันก็ยังตันๆสมองอยู่ ฮ่าๆ ช่วงนี้เริ่มดู Referece และงานที่น่าสนใจเยอะขึ้นมากทีเดียว

จันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2552
วันนี้เขียนรายละเอียดของโครงการจุลนิพนธ์มาคุยกับอาจารย์แจ๊คในคาบเรียนวิชาสัมมนาเช่นเคย ซึ่งยังคงเป็นเรื่องดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัดอยู่ ก็ได้ความคิดอีกมากเหมือนกัน และเราก็ตัดสินใจว่า เอาหล่ะ สิ่งที่เราจะทำสำหรับเรื่อง "เครื่องเขียน" ก็คือ
- การ์ตูนเงียบเน้น Over Acting
- สื่อผสม 2D และ 3D

เสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2552
วันนี้อาจารย์นัดตรวจหัวข้อจุลนิพนธ์อย่างไม่เป็นทางการ โดยมีอาจารย์ตาล อาจารย์นพ และอาจารย์เต้ยเป็นผู้มาตรวจ และแนะนำพวกเราในวันนี้ เรารีบมุ่งหน้าเข้าไปหาอาจารย์เต้ยในทันที พอเข้าไปคุยกับอาจารย์ปุ๊บ..รู้เรื่องเลย!!
- ตอนนี้เราได้แต่ฝัน ฝันฟุ้งๆ จับกลุ่มก้อนไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันทำอะไรยังไง แล้วทำไมถึงทำ?
- ชอบเพลงแล้วถนัดหรือเปล่า รู้ขนาดไหนเกี่ยวกับเพลง?
- ทำไมยางลบต้องร้าย แล้วไม้บรรทัดเกี่ยวอะไรด้วย?
ช็อคจ้ะช็อค!! ฮ่าๆ ไปไม่ถูกเลยทีนี้ รู้สึกว่าตอบอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้นได้แต่คิดว่า..เปลี่ยนดีป่าวหว่า?? ซึ่งเราก็ไม่คุยกับเพื่อน ส่วนใหญ่พวกเราที่ไปคุยกับอาจารย์เต้ย..มักจะเปลี่ยนหัวข้อ เราเลยต้องตัดสินใจ เอาวะ..กลับมาสไตล์เรา ยังไงก็ทำมาตั้งนานทิ้งได้ไง และแล้ว..ความคิดของเราก็ไปจบอยู่ที่ "หิมพานต์" โฮะๆๆ ใจนึงก็คิดว่าตายแหงมๆ แต่ก็ต้องขอบคุณมากๆ สำหรับแรงผลักดันและกำลังใจ

- อาจารย์โอพิล "ยังไงก็อย่าทิ้งความเป็นไทยไปนะบูมส์" อาจารย์พูดแล้วยิ้ม ^^
- พี่ไม้ Thaispirit เป็นแรงบรรดาลใจของงานอย่างมโหฬาร แถมแนะนำเรื่องราวอะไรให้เราอีกมากมาย
- สิปนนท์ ต่อ ตรอง "ดีเลย..ตอนแรกที่รู้ว่าบูมส์ไม่ทำสไตล์ไทยเราผิดหวังเลย" (พูดประมาณนี้แหละ จำไม่ค่อยได้ ฮ่าๆ) ^^
- สาว มิว อ้อม คอยให้เราปรึกษาอยู่เป็นนิจ

แล้วเจอกัน..หิมพานต์

Contact Me

ติดต่อ วรรช์นกฤษฎ์ หิรัณนันทโชติ (บูมส์)

E-Mail : huahorm.silpakorn@gmail.com
E-Mail : sangmin_np@hotmail.com

MSN : sangmin_np@hotmail.com
GTalk : huahorm.silpakorn@gmail.com
Skype : HuaHorm
Twitter : HuaHorm
Hi5 : HuaHorm
Youtube : HuaHorm
Facebook : HuaHorm

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมผลงานด้วยนะครับ ^^
 

My Social Networks